เลวานดอฟสกี้ บอกกับ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ ว่าต้องรักษามาตรฐานของตัวเองให้ได้เป็นเวลานาน
เลวานดอฟสกี้ และ ฮาแลนด์ ต่างก็ได้รับการยกย่องให้อยู่ในกลุ่มกองหน้าที่เก่งที่สุดของทั้ง บุนเดสลีกา และวงการฟุตบอลในปัจจุบัน จากการที่พวกเขาทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันก็มีข่าวว่า บาเยิร์น คิดจะดึง ฮาแลนด์ มาเป็นทายาทของ เลวานดอฟสกี้ ด้วย
ดาวเตะชาวโปแลนด์ให้สัมภาษณ์กับ พิลก้านอซน่า นิตยสารในบ้านเกิดว่า “ฮาแลนด์ เป็นนักเตะที่ทำให้คุณรู้สึกสนุกเมื่อได้ดูเขาเล่น แต่การที่ใครบางคนมีศักยภาพที่ดีมันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเป็นสตาร์ของจริงได้เป็นเวลาหลายปีหรอกนะ ทุกคนมีการพัฒนาที่แตกต่างกัน เขาเป็นนักเตะที่ทั้งแข็งแกร่ง, เร็ว และมีสรีระที่ดี ซึ่งเขาก็ใช้สิ่งเหล่านั้นเป็นจุดหลักในการเล่นของเขา ขณะที่ผมน่ะมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากเขา และเราก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเขาจะพัฒนาตัวเองในแบบไหน”
เลวานดอฟสกี้ เสริมว่าส่วนตัวแล้วตนยกให้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เป็นรางวัลที่ดีกว่า บัลลง ดอร์ หลังจากเขาเพิ่งได้รางวัลของ ฟีฟ่า ประจำปี 2021 จนกลายเป็นการได้รางวัลนี้ 2 สมัยติดต่อกัน ตรงกันข้ามกับรางวัล บัลลง ดอร์ ที่แพ้ให้ ลิโอเนล เมสซี่ “พักหลังมานี้ผมคิดเกี่ยวกับรางวัล ฟีฟ่า เดอะ เบสต์ และ บัลลง ดอร์ เยอะมาก จนผมได้ข้อสรุปว่ารางวัลของ ฟีฟ่า มันดูดีกว่า บัลลง ดอร์”
“รางวัลหลัง (บัลลง ดอร์) น่ะมีแต่นักข่าวที่เป็นคนลงคะแนน ซึ่งมันก็ขาดความชัดเจนเหมือนกับที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญ, บรรดาอดีตนักเตะ และเหล่าแข้งในปัจจุบันมักจะพูดกันอยู่บ่อยๆ ขณะที่รางวัลของ ฟีฟ่า มีทั้งคนที่ทำอาชีพในวงการนี้และนักข่าวลงคะแนนโหวต ซึ่งคนที่ทำอาชีพในวงการนี้ก็คือเหล่ากัปตันทีมและโค้ช พวกเขาสามารถตัดสินตามความเป็นจริงได้ และสามารถประเมินความสำเร็จของเราได้อย่างถูกต้อง เพราะพวกเขารู้ว่าเกมแต่ละนัด, สถิติแต่ละอย่าง และอาการบาดเจ็บแต่ละครั้งมันจะส่งผลกับเราได้มากแค่ไหน”
“ในแง่ของชื่อเสียงแล้วน่ะ บัลลง ดอร์ อาจจะมีมากกว่ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ ฟีฟ่า แต่พอได้รู้ว่าผมได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน จากการโหวตของโค้ชและนักเตะด้วยกันแล้วน่ะ มันก็ทำให้ผมรู้สึกภูมิใจมากๆ เพราะผมรู้ดีว่าผมทำงานมาหนักแค่ไหนตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา”
อ่านข่าวกีฬาเพิ่มเติมได้ที่ : arsenalsociety