คืนของ เบนเซม่า เก็บตกเกร็ดหลัง มาดริด บุกพิชิต เชลซี
คืนของ เบนเซม่า เก็บตกเกร็ดหลัง แม้ว่าขุมกำลังกับฟอร์มโดยรวมจะดูดีกว่า แต่ก่อนเกมก็คงมีไม่กี่คนที่คิดหรอกว่า เรอัล มาดริด จะสามารถบุกไปทุบ เชลซี 3-2 ได้ถึงสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันพุธที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมาได้
ผลการแข่งขันที่ออกมาทำให้นี่ถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์ของ มาดริด เพราะมันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาสามารถเอาชนะ เชลซี ได้ อย่างไรก็ตาม มันยังมีเกร็ดอื่นๆ ที่น่าสนใจเหมือนกัน โดยเฉพาะของ คาริม เบนเซม่า ฮีโร่ของฝั่ง “ราชันชุดขาว” ที่สร้างเกร็ดอันน่าสนใจได้มากเป็นพิเศษ ลองไปดูดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
– ความพ่ายแพ้คาบ้านที่ยับเยินของ เชลซี
เดิมทีก่อนลงเล่นนัดนี้ เชลซี ก็เพิ่งเจอกับช่วงเวลาที่เลวร้ายมาหมาดๆ จากการที่พวกเขาแพ้ เบรนท์ฟอร์ด คาบ้านในเกมลีกด้วยสกอร์ถึง 1-4 นั่นหมายความว่าแค่ 2 นัดหลังสุดที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ บรรดาสาวก “สิงโตน้ำเงินคราม” ก็ต้องทนเห็นทีมรักเสียประตูรวมแล้วไปถึง 7 ลูกด้วยกัน
คืนของ เบนเซม่า! เก็บตกเกร็ดหลัง มาดริด บุกพิชิต เชลซี
ADVERTISEMENT
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่ โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามากุมบังเหียน เชลซี เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปีก่อนนั้น นี่นับเป็นครั้งแรกที่ เชลซี ในยุคของเขาแพ้คา สแตมฟอร์ด บริดจ์ 2 นัดติดต่อกัน นอกจากนี้ มันยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2012 ที่ เชลซี เสียประตูในบ้าน 3 ลูกขึ้นไปถึง 2 เกมรวดด้วย โดยเมื่อตอนปี 2012 พวกเขาเคยแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาบ้าน 2-3 ในเกมลีก ก่อนจะไปเอาคืนในเกม ลีก คัพ รอบ 4 ที่เสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-3 ในช่วงเวลาปกติ แล้วค่อยไปเอาชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษที่สกอร์ 5-4
– การล้างแค้นที่หอมหวานของ อันเชล็อตติ
แทบไม่มีใครที่กล้าปฏิเสธหากมีคนบอกว่า คาร์โล อันเชล็อตติ คือหนึ่งในกุนซือชั้นยอดของวงการลูกหนังตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผลงานและความสำเร็จที่เจ้าตัวทำได้ถือเป็นเครื่องตอกย้ำถึงฝีมือเขาของดีกว่าอะไรทั้งหมด
ADVERTISEMENT
คืนของ เบนเซม่า! เก็บตกเกร็ดหลัง มาดริด บุกพิชิต เชลซี
อย่างไรก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าก่อนหน้านี้ ทูเคิ่ล มีผลงานที่โดดเด่นอย่างมากในการดวลกับยอดกุนซือชาวอิตาเลียนจนถึงขนาดที่ อันเชลอตติ ไม่สามารถเอาชนะกึ๋นของเขาได้มา 4 เกมติดต่อกัน ประกอบด้วยการที่ อันเชล็อตติ พา บาเยิร์น แพ้ ดอร์ทมุนด์ 2-3 ในรอบรองชนะเลิศของ เดเอฟเบ-โพคาล ฤดูกาล 2016-17, นำ นาโปลี เสมอกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยสกอร์ 2-2 และ 1-1 ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2018-19 ตามด้วยเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ เอฟเวอร์ตัน แพ้ เขลซี 0-2 เมื่อช่วงเดือนมีนาคม ปี 2021
ถึงกระนั้น ในที่สุด อันเชล็อตติ ก็สามารถเอาคืน ทูเคิ่ล ได้สักทีหลังจากที่เก็บความชอกช้ำมาพักหนึ่ง โดยนี่ถือเป็นการชนะ ทูเคิ่ล เพียงแค่ครั้งที่ 3 ของ อันเชล็อตติ จากการดวลกับอีกฝ่าย 8 หนด้วย
– วันแห่งความสุขสำหรับ เบนเซม่า
อย่างที่รู้กันดีว่า เบนเซม่า มีผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างมากตลอดช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมาจนหลายคนแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขามีอายุ 34 ปีเข้าไปแล้ว โดยหากนับแค่ฤดูกาลนี้เขาก็กดไปแล้ว 37 ประตูจากการลงเล่น 36 นัดในทุกรายการ
คืนของ เบนเซม่า! เก็บตกเกร็ดหลัง มาดริด บุกพิชิต เชลซี
ทั้งนี้ การที่ เบนเซม่า ทำแฮตทริกในนัดล่าสุดได้มันไม่ได้เพียงแค่ทำให้เขาเป็นนักเตะคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์ของรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สามารถทำแฮตทริกในเกมถ้วยนี้ได้ถึง 2 นัดติดต่อกันหากนับรวมทุกรอบ แต่เขายังเป็นคนที่ 2 ที่ทำแฮตทริกในรอบน็อกเอาต์ของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ 2 นัดรวดด้วย โดยคนแรกที่ทำอย่างนั้นได้ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เคยทำได้ตอนเล่นให้ เรอัล มาดริด เมื่อฤดูกาล 2016-17
ยิ่งไปกว่านั้น จากการที่ เบนเซม่า ทำประตูในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาลนี้ไปแล้ว 11 ลูก มันก็ทำให้เขาเป็นนักเตะชาวฝรั่งเศสคนแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1958-59 ที่สามารถทำประตูในเกมชิงถ้วย “บิ๊กเอียร์” ได้อย่างน้อย 10 ลูกต่อ 1 ฤดูกาลเช่นกัน โดยคนเดียวที่เคยทำได้ก่อนหน้าเขาคือ ฌูลส์ ฟ็องแต็ง ซึ่งเคยยิงให้ แร็งส์ 10 ลูกเมื่อครั้งอดีต
อ่านข่าวเพิ่มเติม >>> arsenalsociety.com
